วิธีการเลือกยางรถยนต์ขอบ 17 2567 ขั้นตอนการเช็คสภาพยางเบื้องต้น ก่อนนำรถไปเปลี่ยนยางใหม่

AlexanderLee
AlexanderLee

วิธีการเลือกยางรถยนต์ขอบ 17 2567 ขั้นตอนการเช็คสภาพยางเบื้องต้น ก่อนนำรถไปเปลี่ยนยางใหม่

การเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถของเรานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะยางรถยนต์เป็นส่วนสำคัญที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง ส่งผลต่อความปลอดภัย การควบคุมรถ และประสิทธิภาพในการขับขี่โดยรวม ยิ่งเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ยางรถยนต์ที่ดีจะช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงมีวิธีการเลือกยางรถยนต์ขอบ 17 ประจำปี 2567 พร้อมขั้นตอนการเช็คสภาพยางเบื้องต้น ก่อนนำรถไปเปลี่ยนยางใหม่มาฝากกันค่ะ

วิธีการเลือกยางรถยนต์ขอบ 17

1. ขนาดยาง

ขนาดยางรถยนต์จะถูกระบุไว้ที่แก้มยาง โดยจะประกอบด้วยตัวเลขและตัวอักษรต่างๆ เช่น 205/55R17 91V ซึ่งแต่ละตัวมีนัยยะดังนี้

  • 205: ความกว้างของหน้ายางเป็นมิลลิเมตร
  • 55: ความสูงของแก้มยางเป็นเปอร์เซ็นต์ของความกว้าง (ตัวนี้จะบอกความหนาของแก้มยาง)
  • R: แสดงโครงสร้างของยางว่าเป็นแบบเรเดียล
  • 17: ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อเป็นนิ้ว
  • 91: ดัชนีรับน้ำหนัก โดย 91 คือรับน้ำหนักได้ 615 กิโลกรัมต่อเส้น
  • V: ดัชนีความเร็ว โดย V คือขับขี่ได้ที่ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.

2. ลักษณะดอกยาง

ดอกยางมีหลายประเภท ทั้งแบบสมมาตร ไม่สมมาตร ดอกยางแบบทิศทางเดียว และแบบ All-Terrain ซึ่งแต่ละประเภทก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันไป เช่น

  • ดอกยางแบบสมมาตร: มีลักษณะดอกยางเหมือนกันทั้ง 2 ด้าน เป็นดอกยางทั่วไปที่ให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ที่สมดุล
  • ดอกยางแบบไม่สมมาตร: มีลักษณะดอกยางต่างกันทั้ง 2 ด้าน โดยด้านนอกจะเน้นการยึดเกาะถนน ส่วนด้านในจะเน้นการระบายน้ำ
  • ดอกยางแบบทิศทางเดียว: มีดอกยางที่ออกแบบให้หมุนไปในทิศทางเดียวเท่านั้น จึงมีประสิทธิภาพในการระบายน้ำที่ดีเยี่ยม
  • ดอกยางแบบ All-Terrain: ออกแบบมาสำหรับรถที่ใช้งานทั้งบนถนนและลุยเส้นทางสมบุกสมบัน ดอกยางจะมีลักษณะใหญ่และห่าง เพื่อเพิ่มการยึดเกาะบนพื้นที่ขรุขระ

3. เนื้อยาง

เนื้อยางแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ เนื้อยางแข็งและเนื้อยางนิ่ม ซึ่งเนื้อยางแต่ละประเภทก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เช่น

  • เนื้อยางแข็ง: มีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่จะให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ที่น้อยกว่า
  • เนื้อยางนิ่ม: ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่มากขึ้น แต่จะสึกหรอได้เร็วกว่า

4. แบรนด์ยาง

แบรนด์ยางเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณา เพราะแบรนด์ยางแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นและเทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป เช่น

  • Michelin: โดดเด่นเรื่องความทนทานและการยึดเกาะถนน
  • Bridgestone: โดดเด่นเรื่องความเงียบและความนุ่มนวล
  • Goodyear: โดดเด่นเรื่องการควบคุมและการระบายน้ำ
  • Pirelli: โดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพการขับขี่บนถนนเปียก

5. ราคา

ราคาของยางรถยนต์จะแตกต่างกันไปตามขนาด ลักษณะดอกยาง เนื้อยาง และแบรนด์ ผู้ใช้รถจึงควรพิจารณางบประมาณและความต้องการของตัวเอง เพื่อเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด

ขั้นตอนการเช็คสภาพยางเบื้องต้น

ก่อนนำรถไปเปลี่ยนยางใหม่ ผู้ใช้รถสามารถเช็คสภาพยางเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง เพื่อประเมินว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางหรือยัง โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. ตรวจสอบดอกยาง: ใช้เหรียญบาทวางลงในร่องดอกยาง หากดอกยางสูงกว่าเหรียญแสดงว่ายังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนยาง
  2. ตรวจสอบความดันลมยาง: ใช้เครื่องวัดความดันลมยางตรวจสอบความดันลมยางทั้ง 4 ล้อ หากความดันลมยางต่ำกว่าหรือสูงกว่าค่าที่กำหนด ควรเติมหรือปล่อยลมให้ได้ค่าที่เหมาะสม
  3. ตรวจสอบแก้มยาง: สังเกตว่ามีรอยฉีกขาด บวม หรือแตกลายงาหรือไม่
  4. ตรวจสอบขอบยาง: ตรวจสอบว่ามีรอยแตกหรือรอยฉีกขาดบริเวณขอบยางหรือไม่ หากพบรอยฉีกขาด ควรเปลี่ยนยางใหม่ทันที

ตารางราคายางรถยนต์ขอบ 17

ยี่ห้อรุ่นขนาดราคา
MichelinPrimacy 4205/55R174,500 บาท
BridgestoneTuranza T005A205/55R174,200 บาท
GoodyearEfficientGrip Performance 2205/55R173,900 บาท
PirelliCinturato P7205/55R174,800 บาท
YokohamaAdvan Sport V105205/55R174,300 บาท

สรุป

การเลือกยางรถยนต์ขอบ 17 ที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะส่งผลต่อความปลอดภัย การควบคุมรถ และประสิทธิภาพในการขับขี่โดยรวม ผู้ใช้รถจึงควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดยาง ลักษณะดอกยาง เนื้อยาง แบรนด์ยาง และราคา เพื่อเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถและความต้องการของตัวเองมากที่สุด นอกจากนี้ ผู้ใช้รถยังสามารถเช็คสภาพยางเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง เพื่อประเมินว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางหรือยัง เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดีที่สุด

คำสำคัญ:

  • ยางรถยนต์ขอบ 17
  • วิธีเลือกยางรถยนต์
  • เช็คสภาพยางรถยนต์
  • เปลี่ยนยางรถยนต์
  • ความปลอดภัยในการขับขี่

14 comments

  1. บทความนี้มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากค่ะ

  2. บทความนี้มีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องค่ะ

  3. บทความนี้เขียนได้ดีมากเลยค่ะ

  4. บทความนี้ไม่มีประโยชน์เลยค่ะ

  5. บทความนี้มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากค่ะ

  6. บทความนี้มีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องค่ะ

  7. บทความห่วยแตกมากเลยค่ะ ไม่มีประโยชน์เลย

  8. บทความนี้มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากค่ะ

  9. บทความดีมากค่ะ มีประโยชน์มากเลยค่ะ

  10. บทความนี้เขียนได้ดีมากเลยค่ะ

  11. บทความนี้ไม่มีประโยชน์เลยค่ะ

  12. บทความนี้เขียนได้ดีมากเลยค่ะ

  13. บทความนี้เขียนได้ดีมากเลยค่ะ

  14. บทความนี้เขียนได้ดีมากเลยค่ะ

Comments are closed.