อันดับ ยางรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2567 เปลี่ยนยางตอนไหนดี? เช็กสภาพยางอย่างไร?
อันดับ ยางรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2567 เปลี่ยนยางตอนไหนดี? เช็กสภาพยางอย่างไร?
การเลือกยางรถยนต์ เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะยางรถยนต์มีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่เป็นอย่างมาก ยางรถยนต์ที่ดีจะช่วยให้เกาะถนนได้ดีขึ้น เบรกได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย ดังนั้น เราจึงควรเลือกยางรถยนต์ที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับการใช้งานของเรา แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ยางรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี และเราควรต้อง เปลี่ยนยางตอนไหน และ เช็กสภาพยางอย่างไร เพื่อให้ได้ยางรถยนต์ที่ดีและคุ้มค่าที่สุด ไปดูกันเลย
ยี่ห้อไหนดี
อันดับยางรถยนต์ที่ดีในปี 2567 จากการจัดอันดับของ Tyre Reviews ซึ่งเป็นเว็บไซต์รีวิวและเปรียบเทียบยางรถยนต์ชั้นนำของโลก มีดังนี้
- มิชลิน (Michelin) ยางรถยนต์คุณภาพสูงจากฝรั่งเศส มีจุดเด่นในเรื่องของความนุ่มนวล เกาะถนนได้ดีเยี่ยม และทนทานต่อการใช้งาน
- คอนติเนนตัล (Continental) ยางรถยนต์จากเยอรมนีที่มีชื่อเสียงในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน ดีเยี่ยมทั้งบนถนนเปียกและถนนแห้ง
- บริดจสโตน (Bridgestone) ยางรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั่วโลก มีจุดเด่นในเรื่องของความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- กู๊ดเยียร์ (Goodyear) ยางรถยนต์จากสหรัฐอเมริกาที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตยางรถยนต์สำหรับรถยนต์ประเภทต่างๆ มีจุดเด่นในเรื่องของความนุ่มนวลและความเงียบในการขับขี่
- พิเรลลี (Pirelli) ยางรถยนต์จากอิตาลีที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตยางรถยนต์สำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง มีจุดเด่นในเรื่องของการยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยมในทุกสภาพถนน
เปลี่ยนยางตอนไหนดี
เราควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อดอกยางสึกหรอจนถึงระดับที่กำหนดไว้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ความลึกของดอกยางประมาณ 1.6 มิลลิเมตร สามารถสังเกตได้จากแถบยางที่เรียกว่า ดอกยางสึกหรอ ซึ่งมีลักษณะเป็นสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมหรือแถบยางนูนขึ้นมา หากดอกยางสึกหรอจนถึงระดับนี้แล้ว แสดงว่ายางรถยนต์ไม่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดีพอ อาจทำให้เกิดอันตรายในการขับขี่ได้
นอกจากนี้ เรายังควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อมีสภาพดังต่อไปนี้
- ดอกยางสึกหรอไม่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนขณะขับขี่
- ยางบวมหรือโป่งออก เป็นสัญญาณว่าโครงสร้างภายในของยางเสียหาย
- ยางแตกลายงา แสดงว่ายางเริ่มเสื่อมสภาพและไม่สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- อายุการใช้งานของยางเกิน 5 ปี แม้ว่าดอกยางจะยังไม่สึกหรอ แต่ยางก็จะเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา อาจทำให้เกิดอันตรายได้
เช็กสภาพยางอย่างไร
นอกจากการสังเกตดอกยางแล้ว เรายังสามารถเช็กสภาพยางรถยนต์ได้ด้วยวิธีอื่นๆ ดังนี้
- ตรวจสอบความดันลมยาง ความดันลมยางที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ยางสึกหรอไม่สม่ำเสมอและทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น
- ถ่วงล้อ เพื่อให้ล้อรถหมุนได้สมดุล ช่วยลดการสั่นสะเทือนและยืดอายุการใช้งานของยาง
- สลับยาง เพื่อให้ยางสึกหรอสม่ำเสมอและยืดอายุการใช้งานของยาง
- ตรวจสอบรอยรั่ว โดยใช้น้ำสบู่ลูบไปที่ยาง หากมีฟองอากาศเกิดขึ้นแสดงว่ายางมีรอยรั่ว
ราคา ยางรถยนต์
ยี่ห้อ | รุ่น | ขนาด | ราคา |
—|—|—|—|
มิชลิน | Pilot Sport 4 | 235/40 R18 | 8,000 บาท |
คอนติเนนตัล | PremiumContact 6 | 215/55 R17 | 6,000 บาท |
บริดจสโตน | Turanza T005A | 195/60 R16 | 4,500 บาท |
กู๊ดเยียร์ | EfficientGrip Performance 2 | 225/50 R17 | 5,500 บาท |
พิเรลลี | P Zero PZ4 | 245/35 R19 | 10,000 บาท |
สรุป
การเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งานและเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมากที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรรู้และปฏิบัติ เพราะจะช่วยให้เราขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและประหยัดมากยิ่งขึ้น หากไม่แน่ใจว่าควรเปลี่ยนยางหรือไม่ ควรนำรถเข้ารับการตรวจเช็กสภาพยางจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้คำแนะนำที่ถูกต้องและปลอดภัยที่สุด
คำหลัก
- ยางรถยนต์
- ยี่ห้อไหนดี
- เปลี่ยนยางตอนไหน
- เช็กสภาพยาง
- ยางรถยนต์ราคา
บทความดีมากเลยครับ ให้ความรู้ครบถ้วนมากเลยครับ
ผมว่ายางยี่ห้อนี้ไม่ดีเลยครับ ราคาก็แพงแถมใช้ได้ไม่นานด้วย
บทความนี้ดีมากเลยครับ ให้ความรู้อันเป็นประโยชน์มากเลยครับ
เพิ่มเติมอีกนิดครับ ยางใหม่ควรเปลี่ยนทุก 5 ปีครับ
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ ผมจะได้เลือกยางที่เหมาะกับรถได้แล้ว
ยางยี่ห้อนี้ดีมากเลยครับ ใช้แล้วรถวิ่งเหมือนเหาะเลยครับ
ยางยี่ห้อนี้ดีจริงๆครับ ใช้มาหลายคันแล้วไม่มีปัญหาเลย
ไม่จริงเลยครับ ยางยี่ห้อที่แนะนำมาไม่ดีเลยครับ
ยางยี่ห้อนี้ดีจริงครับ ใช้แล้วรถวิ่งลื่นปรื๊ดเลย