วิธีการเลือกยาง Goodyear 2567 เลือกยังไงให้เหมาะกับการขับขี่
วิธีการเลือกยาง Goodyear 2567 เลือกยังไงให้เหมาะกับการขับขี่
การเลือกยางรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะยางรถยนต์มีส่วนสำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณ โดยเฉพาะยาง Goodyear ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและความทนทาน แต่การจะเลือกยาง Goodyear อย่างไรให้เหมาะกับการขับขี่ของคุณนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับการเลือกยาง Goodyear 2567 มาฝาก
1. ขนาดยาง
ขนาดยางเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรก โดยขนาดยางจะระบุอยู่บนแก้มยาง โดยทั่วไปแล้วขนาดยางจะประกอบด้วยตัวเลขและตัวอักษร เช่น 205/55 R16 ซึ่งตัวเลขแรก (205) หมายถึงความกว้างของหน้ายางเป็นมิลลิเมตร ตัวเลขที่สอง (55) หมายถึงอัตราส่วนความสูงของแก้มยางต่อความกว้างของหน้ายางเป็นเปอร์เซ็นต์ และตัวเลขสุดท้าย (16) หมายถึงเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อเป็นนิ้ว
2. ประเภทยาง
ยาง Goodyear มีหลายประเภทให้เลือก โดยแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและเหมาะสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยประเภทยางที่ได้รับความนิยมได้แก่
- ยางนั่งสบาย (Comfort) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความนุ่มนวลในการขับขี่
- ยางประหยัดน้ำมัน (Fuel Efficient) ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่ายางทั่วไป
- ยางสมรรถนะสูง (Performance) ให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนเปียกลื่น
- ยางสำหรับรถกระบะ (Truck) ออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักบรรทุกที่มาก
- ยางสำหรับรถ SUV (SUV) เหมาะสำหรับการใช้งานแบบอเนกประสงค์ ทั้งบนถนนและทางวิบาก
3. ลายดอกยาง
ลายดอกยางเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะลายดอกยางมีผลต่อประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน โดยลายดอกยางที่ได้รับความนิยมได้แก่
- ลายดอกยางแบบทิศทาง (Directional) ช่วยรีดน้ำได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนเปียกลื่น
- ลายดอกยางแบบไม่ทิศทาง (Non-directional) มีความสมดุลทั้งการยึดเกาะและความเงียบ
- ลายดอกยางแบบสมมาตร (Symmetrical) เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไป
- ลายดอกยางแบบไม่สมมาตร (Asymmetrical) ให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยมทั้งในสภาพถนนแห้งและเปียก
4. ดัชนีความเร็ว
ดัชนีความเร็วระบุความเร็วสูงสุดที่ยางสามารถรับได้ โดยดัชนีความเร็วจะระบุด้วยตัวอักษร เช่น H, V, W, Y ซึ่งแต่ละตัวอักษรจะแทนความเร็วสูงสุดที่แตกต่างกัน เช่น H = 210 กม./ชม., V = 240 กม./ชม., W = 270 กม./ชม. และ Y = 300 กม./ชม.
5. ดัชนีน้ำหนักบรรทุก
ดัชนีน้ำหนักบรรทุกระบุความสามารถในการรับน้ำหนักของยาง โดยดัชนีน้ำหนักบรรทุกจะระบุด้วยตัวเลข เช่น 80, 82, 84, 86 ซึ่งแต่ละตัวเลขจะแทนน้ำหนักบรรทุกสูงสุดที่แตกต่างกัน เช่น 80 = 450 กก., 82 = 475 กก., 84 = 500 กก. และ 86 = 530 กก.
ตารางเปรียบเทียบราคา
| ยาง Goodyear | ขนาด | ประเภทยาง | ราคา |
|---|---|---|---|
| Assurance TripleMax 2 | 205/55 R16 | นั่งสบาย | 2,500 บาท |
| EfficientGrip Performance 2 | 215/55 R17 | ประหยัดน้ำมัน | 3,000 บาท |
| Eagle F1 Asymmetric 5 | 225/45 R18 | สมรรถนะสูง | 4,000 บาท |
| Wrangler AT SilentTrac | 265/65 R17 | สำหรับรถกระบะ | 4,500 บาท |
| Eagle LS-2 | 235/65 R16 | สำหรับรถ SUV | 3,500 บาท |
สรุป
การเลือกยาง Goodyear 2567 ให้เหมาะกับการขับขี่ของคุณไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่พิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างครบถ้วนทั้งขนาดยาง ประเภทยาง ลายดอกยาง ดัชนีความเร็ว และดัชนีน้ำหนักบรรทุก คุณก็จะได้ยาง Goodyear ที่ตอบโจทย์การใช้งานและมอบความปลอดภัยในการขับขี่ให้กับคุณได้อย่างเต็มที่
แท็ก
ยาง Goodyear 2567, เลือกยางรถยนต์, ประเภทยาง, ลายดอกยาง, ขนาดยาง
เอ๊ะ ใช่ไหม๊เนี่ย ที่ดีที่สุดต้องเป็นมิชลินสิ ถถถ
ผมว่ายางใหม่ๆ ทุกยี่ห้อก็เกาะถนนดีกันทั้งนั้นแหละ แต่ใช้ไปนานๆ ค่อยมาดูกันอีกทีว่าอันไหนทนกว่ากัน
อะไรกันเนี่ย เขียนบทความภาษาไทยได้ห่วยมาก งงไปหมด
ไม่แน่ใจว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดี มีงบไม่เกิน 10,000 ต่อเส้น
ยางรุ่นนี้มันเหมาะกับรถกระบะเหรอ หรือว่ารถเก๋ง
โห แพงจัง ไปซื้อยางจีนถูกๆ มาใช้ดีกว่า เดี๋ยวนี้ก็ดีไม่แพ้กันหรอก
เกือบลืมไปเลยว่าพรุ่งนี้ต้องไปเปลี่ยนยางรถยนต์ ขอบคุณที่เตือนนะครับบบ
โห บทความดีมากๆ เลยครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับผม
เอ๊ะๆๆ ฉันว่าเจ้าของบทความเขียนผิดนะ ตารางนี้มันของปี 2566 ไม่ใช่ 2567
เพิ่งได้ Goodyear EfficientGrip Performance 2 มาใหม่ 5,xxxx ต่อเส้น ราคานี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ใส่แล้วเกาะถนนดีมาก แถมนุ่มอีกต่างหาก