เลือกยาง Yokohama ให้ตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละพื้นที่ 2567 ควรเปลี่ยนยางเมื่อไร รวมวิธีการสังเกตเมื่อยางรถเริ่มเสื่อมสภาพ

เลือกยาง Yokohama ให้ตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละพื้นที่ 2567 ควรเปลี่ยนยางเมื่อไร รวมวิธีการสังเกตเมื่อยางรถเริ่มเสื่อมสภาพ

ยางรถยนต์เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้รถยนต์เคลื่อนที่ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับยาง Yokohama และแนะนำวิธีการเลือกยางให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่ รวมถึงบอกวิธีสังเกตเมื่อยางรถเริ่มเสื่อมสภาพ

ประเภทยาง Yokohama

ยางสำหรับรถเก๋ง

• ออกแบบมาสำหรับรถเก๋งขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
• เน้นการเกาะถนนและความสบายในการขับขี่
• ลวดลายดอกยางแบบทิศทางช่วยระบายน้ำได้ดี

ยางสำหรับรถกระบะและ SUV

• ผลิตจากวัสดุที่ทนทานกว่ายางรถเก๋ง
• ลวดลายดอกยางแบบบล็อกใหญ่ ให้การยึดเกาะที่ดีบนทุกสภาพถนน
• มีแก้มยางที่แข็งแรงกว่า เพื่อรองรับน้ำหนักบรรทุกมาก

ยางสำหรับรถบรรทุก

• ออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักบรรทุกที่มาก
• มีโครงสร้างที่แข็งแกร่งและดอกยางที่หนา
• ลวดลายดอกยางแบบซิกแซกช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะบนถนนลื่น

ยางวิบาก

• ออกแบบมาสำหรับรถที่ใช้ขับขี่บนถนนขรุขระและลื่น
• มีดอกยางแบบใหญ่และลึก เพื่อการยึดเกาะที่เหนือกว่า
• อาจมีการเสริมด้วยโครงเหล็กเพื่อความทนทาน

ยางประหยัดน้ำมัน

• ออกแบบมาเพื่อลดแรงต้านการหมุน
• มีดอกยางแบบพิเศษที่ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
• มักจะมีค่าความต้านทานการหมุนต่ำ

วิธีการเลือกยาง Yokohama ให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่

• กรุงเทพมหานครและปริมณฑล: เน้นยางที่เกาะถนนได้ดีในสภาพถนนเปียก และมีการระบายน้ำได้ดี เช่น Yokohama Advan Fleva V701
• ภาคเหนือ: เน้นยางที่ทนทานต่อการใช้งานบนถนนขรุขระและลาดชัน เช่น Yokohama Geolandar A/T G015
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เน้นยางที่เกาะถนนได้ดีบนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ เช่น Yokohama BluEarth-Van RY55
• ภาคกลาง: เน้นยางที่เกาะถนนได้ดีและมีการยึดเกาะที่ดีในทุกสภาพอากาศ เช่น Yokohama BluEarth-XT AE61
• ภาคใต้: เน้นยางที่ระบายน้ำได้ดีและมีการยึดเกาะที่ดีบนถนนเปียก เช่น Yokohama BluEarth-ES ES32

ควรเปลี่ยนยางเมื่อไร

โดยทั่วไปแล้ว ควรเปลี่ยนยางทุกๆ 40,000-50,000 กิโลเมตร หรือเมื่อยางเริ่มเสื่อมสภาพ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากสัญญาณต่างๆ ดังนี้

• ดอกยางสึกจนถึงจุดบอกระดับความลึกของดอกยาง (TWI) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่อยู่บนดอกยาง
• แก้มยางบวมหรือมีรอยฉีกขาด ซึ่งอาจเกิดจากการกระแทกหรือการขับขี่ด้วยความเร็วสูง
• ยางลื่นไถลหรือเกาะถนนไม่ดี ซึ่งเป็นสัญญาณว่ายางเสื่อมสภาพและไม่สามารถให้การยึดเกาะที่ดีอีกต่อไป
• ยางมีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี แม้ว่าดอกยางอาจยังไม่สึกถึงจุด TWI แต่ยางก็อาจเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
• ขอบยางแตกลาย ซึ่งอาจเกิดจากการจอดรถในที่ที่มีแสงแดดจัดเป็นเวลานาน

วิธีการสังเกตเมื่อยางรถเริ่มเสื่อมสภาพ

นอกจากสัญญาณที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ยังมีวิธีสังเกตอื่นๆ ที่บ่งชี้ว่ายางรถเริ่มเสื่อมสภาพ ได้แก่

• ตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำ ยางที่แรงดันลมต่ำกว่าหรือสูงกว่าที่กำหนดอาจทำให้ยางสึกหรอผิดปกติ
• สังเกตการสึกหรอของดอกยาง ดอกยางที่สึกหรอไม่สม่ำเสมออาจบ่งชี้ว่าช่วงล่างหรือระบบเบรกมีปัญหา
• ตรวจสอบรอยบากหรือรอยแตกที่แก้มยาง รอยเหล่านี้เป็นสัญญาณของการเสื่อมสภาพหรือการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง
• สังเกตการสั่นสะเทือนที่พวงมาลัย การสั่นสะเทือนที่พวงมาลัยอาจเกิดจากยางที่ไม่สมดุลหรือมีปัญหาอื่นๆ
• ฟังเสียงผิดปกติขณะขับรถ เสียงหอนหรือเสียงดังผิดปกติอื่นๆ อาจเกิดจากยางที่สึกหรอหรือมีปัญหาอื่นๆ

ตารางราคายาง Yokohama

สรุป

การเลือกยาง Yokohama ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของรถยนต์ โดยต้องคำนึงถึงสภาพการใช้งานในแต่ละพื้นที่และสภาพยางรถด้วย นอกจากนี้ ควรหมั่นตรวจสอบและเปลี่ยนยางเมื่อจำเป็นเพื่อให้รถยนต์เคลื่อนที่ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

คำหลัก

• ยาง Yokohama
• เลือกยางให้เหมาะกับการใช้งาน
• สัญญาณยางเสื่อมสภาพ
• วิธีการสังเกตยางเสื่อมสภาพ
• ตารางราคายาง Yokohama